08 เมษายน 2563

[EP.2/5] การเตรียมสอบ - สำรวจก่อนว่าเราชอบอะไร

เราก็ต้องรู้ก่อนว่าเราอยากเป็นอะไร อยากเรียนอะไร เพราะถ้าไม่รู้เนี่ย เราจะโฟกัสไม่ได้ แล้วเราจะเหนื่อยมากที่จะต้องเตรียมตัวทุกวิชาให้พร้อม และให้คะแนนสอบเป็นตัวตัดสินคณะที่เราอยากเรียน สิ่งหนึ่งที่อยากพูดก่อนเลยจากประสบการณ์คือมันก็มีอีกนะว่า เราเรียนอะไรมาแล้วเราต้องทำงานตรงกับที่เราเรียน บอกเลยว่าสมัยนี้ ไม่จริง! บางทีเขาอาจจะต้องใช้เวลา 4 ปีนั้นในการตอบตัวเองก็ได้ว่า สิ่งที่เขาเรียน มันไม่ใช่ตัวเขาเลย แต่ถามว่ามันสายไปไหม ไม่สายหรอกครับ คนเราต้องเจอเรื่องราวอะไรมากมาย อาจจะมีจุดเปลี่ยน จุดหักเหที่แต่ก่อนเราเคยคิดว่าเหมาะสมดีกับตัวเรา วันนึงเราอาจจะเปลี่ยนความคิดนั้นก็ได้ แต่สิ่งที่อยากเน้นส่วนนี้ว่าหากเรารู้จักตัวตนของตัวเองจริงๆแล้วหละ มันจะเป็นการดีกว่าไหมหากเราได้เรียนอะไรที่มันส่งเสริมความสนใจของเรา เอาตัวเองไปอยู่กับสิ่งแวดล้อมเหล่านั้น มันจะช่วยให้เราสามารถพัฒนาทักษะนั้นให้ดีขึ้นไป การเรียนรู้ของเราจะไปได้เร็วและดีมากๆเลย หรือสุดท้ายเราแม้ว่าเราไปอยู่จุดนั้นได้แล้ว เราอาจจะมาพบตัวเองก็ได้นะว่า เราอาจจะไม่ได้ชอบสิ่งนั้นจริงๆเลยก็ได้ . . .

ยกตัวอย่างประสบการณ์ส่วนตัวของเราคือ เรารู้ตัวเร็วว่าอยากเข้าวิศวฯคอม มาตั้งแต่เด็ก เพราะตอนเราอยู่ประถม 1 ญาติเราซึ่งเรียนวิศวฯคอมอยู่ ณ เวลานั้น มาทำคอมที่บ้านเรา สมัย Windows 95 เลยหนะ สิ่งที่เราเห็นคือเขาอยู่หน้าคอม และก็พิมพ์อะไรไม่รู้เร็วๆ แล้วอะไรมันก็ขึ้นหน้าจอปู้ดปี้ดป้าด โอโหหห โคตรเท่ห์เลย (มารู้ตอนหลังน่าจะใช้คำสั่งอะไรใน cmd นี่แหละ และน่าจะเป็นคำสั่งธรรมดาด้วยมั้ง 555) เราก็เลยถามพ่อเราว่าอาเจ็กเขาเรียนอะไรหรอ พ่อก็เลยตอบว่า อาเจ็กเรียนวิศวฯคอมน่ะ เท่านั้นแหละ เหมือนมีโปรแกรมสั่งในสมองเลย หูยเราจะเข้าวิศวฯคอมๆๆๆ ทำให้เราเริ่มรุ้ละว่าวิชาไหนที่เราควรจะสนใจเรียนเป็นพิเศษ เริ่มรู้ละว่าการจะเรียนวิศวะ ต้องเรียนถึงปริญญาตรีนะ เราต้องเก่งเลขนะ เราจะเก่งวิทยาศาสตร์ที่เรียกฟิสิกส์ซึ่งสมัยนั้นไม่รู้เรื่องหรอกอะไรคือฟิสิกส์ เคมี ชีวะ แต่เหมือนโดนสั่งในสมองละว่าเราต้องสนใจวิชาเหล่านี้ ดังนั้นเมื่อโตขึ้น เราก็พยายามจะอยู่กับคอมพิวเตอร์ เรียนเลขให้ดีๆ เรียนวิทยาศาสตร์ให้ดีๆ ที่เหลือช่างมัน อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นมาว่าแต่ละคนอาจจะมีเรื่องความประทับใจแรกพบที่แตกต่างกันแต่ที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเองว่า "คุณชอบมันจริงใช่ไหม"

คุณต้องซื่อสัตย์กับตัวเองนะ ไม่ใช่ว่าหัวไม่ไปแล้วจะยังฝืน เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะสุดท้ายก็จะเป็นเรานี่แหละที่เจ็บที่สุด เพราะหลอกตัวเองไปวันๆ หากน้องยังไม่รู้จริงๆว่าเราชอบอะไร ปัจจุบัน ค่าย open house หรือค่ายที่จัดโดยคณะต่างๆ อาทิเช่น อย่างวิศวฯจุฬา ก็จะมีค่ายลานเกียร์ ที่เปิดให้น้องเข้าไปสัมผัสวัฒนธรรมของวิศวฯจุฬา รวมไปถึงก็มีการแนะนำภาคต่างๆ มี workshop ให้ลองทำ คณะวิศวะของมหาลัยอื่นๆก็มีนะ เช่นค่ายดงตาล ก็มหาลัยเกษตรเป็นต้น มีอะไรพวกนี้เยอะมาก ก็จงใช้เวลาไปลองอยู่ค่าย หรือไปกิจกรรมพวกนี้ แล้วลองถามพี่ๆเขาดูว่ามันเป็นยังไง เรียนแล้วรู้สึกยังไง แฮปปี้ไหม มีอะไรที่อยากรู้ก็ใช้ประโยชน์จากกิจกรรมเหล่านี้ให้มาก และถามตัวเองว่า "ใช่ไหม?"

แต่เห็นไหมครับสุดท้ายผมก็ไม่ได้เรียนวิศวฯคอมนะ เพราะมันก็มีจุดเปลี่ยนอื่นๆ ในชีวิตที่เราเห็นแล้วว่า อืมม มันคงไม่ใช่จริงๆ เช่นว่าเราไม่ได้ชอบการเขียนโปรแกรมขนาดนั้น แม้ว่าจะได้ A ในวิชาพื้นฐานเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมตอนปี 1 ก็ตาม (น่อวว ขิงๆ) และเราชอบฟิสิกส์กว่ามากเลย หลวมไปเข้าเครื่องกลซะอย่างงั้น

ลองแวะไปดูซีรี่การเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคลิปนี้ดูนะครับ คำถามอาจจะถูกตั้ง ตั้งแต่คำว่าจะเรียนมหาวิทยาลัยไปทำไมเลยด้วยซ้ำ





ตอนต่อไป (ดูได้ที่แถบด้านข้างหรือลิ้งค์ข้างล่างนี้นะครับ)
EP.1/5 การเตรียมสอบ - ฟิสิกส์มัธยมปลาย
EP.2/5 การเตรียมสอบ - สำรวจก่อนว่าเราชอบอะไร
EP.3/5 การเตรียมสอบ - Learning Curve การบริหารจัดการเวลา
EP.4/5 การเตรียมสอบ - ตัวอย่างการบริหารจัดการเวลา
EP.5/5 การเตรียมสอบ - การจัดการความเครียด

มีคำถามหรือข้อเสนอแนะใดๆ ติดต่อได้ที่ Physicfree4TH@gmail.com ครับ ดาวน์โหลดเอกสารการเรียนได้ ที่นี่ เยี่ยมชม Channel youtube: Physicfree4TH